การเดินทางของคุณควรเป็นมากกว่าแค่การเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่ควรเป็นประสบการณ์ที่ทั้งปลอดภัย สะดวกสบาย และสนุกสนาน รถ Kia SUV นำเสนอทั้งหมดนี้ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ผสานเข้ากับดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ว่าคุณจะมองหารถไฟฟ้า Kia เพื่อก้าวสู่โลกอนาคต หรือรถยี่ห้อ Kia รุ่นไฮบริดที่ผสานจุดเด่นของทั้งสองโลก Kia มีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณและครอบครัว
รถ Kia SUV แบรนด์รถที่ได้รับความไว้วางใจ
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องเลือก รถ Kia SUV ในเมื่อมีตัวเลือกมากมายในตลาด คำตอบอยู่ที่ความลงตัวของทุกองค์ประกอบที่ Kia นำเสนอ ซึ่งมีจุดเด่นหลายด้านที่ทำให้ Kia แตกต่างจากคู่แข่ง:
- แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก – Kia ไม่ใช่แค่แบรนด์รถยนต์ธรรมดา แต่เป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกที่คว้ารางวัลการออกแบบมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะ EV9 ที่ได้รับการยกย่องด้านการออกแบบจากเวทีระดับนานาชาติ การเลือก Kia จึงเท่ากับเลือกแบรนด์ที่มีมาตรฐานระดับโลกและเป็นที่ยอมรับในวงการยานยนต์
- เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยครบวงจร – ทุกรุ่นของ รถ Kia SUV มาพร้อมระบบความปลอดภัยล้ำสมัยที่ครอบคลุมทั้งการป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ และการปกป้องเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ ADAS, ถุงลมนิรภัยรอบคัน, โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่ง รวมถึงเทคโนโลยีเฉพาะในรถไฟฟ้าที่ปกป้องแบตเตอรี่แรงดันสูง คุณจึงมั่นใจได้ว่าคุณและครอบครัวจะปลอดภัยในทุกเส้นทาง
- สมรรถนะที่ตอบโจทย์ทุกสภาพการขับขี่ – ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางไกลที่ต้องการความมั่นคงและกำลังส่งที่เพียงพอ รถยี่ห้อ Kia มีเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ทั้งแบบเครื่องยนต์สันดาป, ไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด และรถไฟฟ้า 100% พร้อมระบบขับเคลื่อนทั้งแบบ 2 ล้อและ 4 ล้อ ให้เลือกตามการใช้งานจริง
เมื่อคุณเลือก Kia คุณไม่ได้เลือกแค่รถยนต์ แต่คุณกำลังเลือกประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความปลอดภัยสูงสุด
เทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานใหม่
ความปลอดภัย คือ สิ่งที่ Kia ให้ความสำคัญสูงสุด ทุกรุ่นของ รถ Kia SUV จึงมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ช่วยปกป้องคุณและครอบครัวในทุกเส้นทาง
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (ADAS)
ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems เป็นชุดเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ โดย รถ Kia SUV ทุกรุ่นมาพร้อมระบบ ADAS ที่ทันสมัย ประกอบด้วย:
- ระบบรักษาความเร็วคงที่อัตโนมัติแบบแปรผัน (Smart Cruise Control with Stop & Go)
- ระบบเตือนและป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง (RCCA: Rear Cross Traffic Collision Avoidance)
- ระบบเตือนและช่วยเหลือการเปลี่ยนเลน (BCA: Blind-spot Collision Avoidance)
ระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์
ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (FCA)
Forward Collision-avoidance Assist (FCA) เป็นระบบที่ช่วยป้องกันการชนด้านหน้า โดยจะตรวจจับและเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน และช่วยเบรกโดยอัตโนมัติหากจำเป็น ใน รถ Kia SUV รุ่นล่าสุด ระบบนี้สามารถตรวจจับทั้ง:
- รถยนต์ด้านหน้า
- คนเดินถนน
- นักปั่นจักรยาน
- สิ่งกีดขวางที่จุดตัดทางแยก (Junction Assist)
ความสามารถในการตรวจจับที่หลากหลายนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในทุกสถานการณ์การขับขี่ โดยเฉพาะในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
ระบบควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Keeping Assist) และระบบช่วยติดตามช่องทางการขับขี่ (Lane Following Assist) ช่วยให้รถของคุณอยู่ในเลนที่ถูกต้อง ระบบจะ:
- ตรวจจับเส้นแบ่งช่องทาง
- เตือนเมื่อรถเริ่มออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
- ช่วยบังคับพวงมาลัยให้รถกลับเข้าสู่เลนที่ถูกต้อง
ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ระยะไกลและลดความเสี่ยงจากการหลับในขณะขับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กล้องรอบคัน 360 องศา และ Blind Spot Detection
การมองเห็นรอบคันที่ชัดเจนเป็นปัจจัยสำคัญในการขับขี่อย่างปลอดภัย Kia จึงติดตั้ง:
- กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor) ที่ให้ภาพมุมสูง 360 องศา
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ (Blind-Spot View Monitor)
- ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง (Safe Exit Assist)
เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้คุณมองเห็นสิ่งที่อาจหลบซ่อนอยู่ในจุดอับสายตา ทำให้การขับขี่ในพื้นที่แคบหรือการจอดรถเป็นเรื่องง่าย และช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นเมื่อลงจากรถ
สมรรถนะที่เหนือระดับ
นอกจากความปลอดภัยแล้ว สมรรถนะในการขับขี่ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ รถ Kia SUV โดดเด่น ด้วยทางเลือกระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ขุมพลังไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดที่ประหยัด
สำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดแต่ยังไม่พร้อมใช้รถไฟฟ้า 100% รถยี่ห้อ Kia มีทางเลือกทั้งระบบไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด:
- Kia Sorento HEV – ให้กำลังรวมสูงสุด 230 แรงม้า ประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลือง 18.9 กม./ลิตร
- Kia Sorento PHEV – ให้กำลังรวมสูงสุด 265 แรงม้า มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกล 66 กม.
ทั้งสองระบบผสานจุดเด่นของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซิน Smartstream 1.6 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ให้ทั้งความประหยัดและสมรรถนะที่เพียงพอสำหรับทุกการใช้งาน
เครื่องยนต์เบนซิน-ดีเซลผสานเกียร์อัตโนมัติล้ำสมัย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบพลังของเครื่องยนต์สันดาป Kia Carnival มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Smartstream 2.2 ลิตร ที่ให้:
- กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที
- แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตรที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที
- ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
เครื่องยนต์นี้ให้แรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำ เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ต้องหยุด-ออกตัวบ่อย และให้กำลังเพียงพอสำหรับการบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันพร้อมสัมภาระ
พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบใน Kia EV
สำหรับผู้ที่พร้อมก้าวสู่อนาคตแห่งการขับขี่ รถไฟฟ้า Kia คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ:
- Kia EV5 – มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 217 แรงม้า (รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า) หรือ 308 แรงม้า (รุ่น AWD) วิ่งได้ไกลถึง 665 กม. (NEDC)
- Kia EV9 – มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุดถึง 283 กิโลวัตต์ในรุ่น AWD วิ่งได้ไกลสุดถึง 680 กม. (NEDC)
รถ Suv ไฟฟ้า ทั้งสองรุ่นสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม E-GMP ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้มีพื้นห้องโดยสารที่กว้างขวาง รองรับการชาร์จเร็ว DC Fast Charging ที่ชาร์จจาก 10-80% ในเวลาเพียง 30-40 นาที และมีระบบ V2L ที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ เสมือนมีปลั๊กไฟติดตัวไปทุกที่
รุ่นยอดนิยมของ รถ Kia SUV
Kia มีรถยนต์หลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเล็ก ครอบครัวใหญ่ หรือผู้ที่ต้องการรถเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง นี่คือรุ่นยอดนิยมที่คุณควรพิจารณา:
- Kia EV5 – SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ครอบครัวเล็ก – เริ่มต้นเพียง 1,299,000 บาท มาพร้อมระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 665 กม. (NEDC) พื้นที่เก็บสัมภาระ 513 ลิตร และซันรูฟพาโนรามา เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้นที่ต้องการก้าวสู่โลกยานยนต์ไฟฟ้า EV5 มีให้เลือก 4 รุ่นย่อยตั้งแต่รุ่น Light ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นไปจนถึง Earth Exclusive AWD ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและฟีเจอร์ระดับพรีเมียม
- Kia EV9 – SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ สมรรถนะสูง ครอบครัวใหญ่ – รถ Suv ไฟฟ้า 6 ที่นั่งที่ได้รับรางวัลการออกแบบระดับโลก มาพร้อมเบาะแถวสองแบบ Captain Seats หรูหรา ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุดถึง 680 กม. (NEDC) และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Remote Smart Parking Assist โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดล้ำ ไฟหน้า Digital Tiger Face, ไฟท้าย Star Map Lighting และล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้วในรุ่น GT-Line AWD
- Kia Sorento – Hybrid และ PHEV สมดุลกำลังและความประหยัด – ราคา 1,959,000 บาท มีทั้งรุ่นไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด ให้กำลังรวมสูงสุด 230-265 แรงม้า มาพร้อม Multi-Terrain Mode ที่ปรับการขับขี่ตามสภาพถนน และระบบความบันเทิงทันสมัยจอสัมผัส 10.25 นิ้ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแต่ยังไม่พร้อมก้าวสู่รถไฟฟ้า 100% หรือต้องการขับทั้งในเมืองและนอกเมือง
- Kia Carnival – MPV หรูหรา ปลอดภัย และกว้างขวาง – ราคาเริ่มต้น 1,892,000 บาท MPV สุดหรูที่มีทั้งรุ่น 7 และ 11 ที่นั่ง มาพร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เบาะนั่ง Relaxation Seats ในรุ่น SXL และเครื่องเสียง BOSE Premium ออกแบบตามแนวคิด GUV (Grand Utility Vehicle) ที่ยกระดับจาก MPV ธรรมดาสู่ยานพาหนะที่ผสานความหรูหรา ความอเนกประสงค์ และความสะดวกสบายไว้ด้วยกัน
แต่ละรุ่นได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน แต่ทุกรุ่นล้วนมีเอกลักษณ์ร่วมกันคือความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และสมรรถนะที่เหนือระดับตามแบบฉบับของ รถยี่ห้อ Kia
ความคุ้มค่าที่เลือกรถ Kia SUV จาก Kia Srinakarin ด้วยบริการเหนือระดับ
การเลือก รถ Kia SUV จาก Kia Srinakarin ไม่เพียงแค่ได้รถที่มีคุณภาพ แต่ยังได้รับบริการที่เหนือระดับและความคุ้มค่าในระยะยาว ด้วยจุดเด่นเหล่านี้:
- ราคาเข้าถึงได้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง – รถยี่ห้อ Kia ให้อุปกรณ์และความหรูหราที่มากกว่าในระดับราคาเดียวกัน โดยเฉพาะในกลุ่มรถไฟฟ้าและไฮบริด ที่มักแถมอุปกรณ์ไฮเทคที่รถค่ายอื่นต้องจ่ายเพิ่ม เช่น เบาะนั่งแบบ Relaxation ที่ปรับเป็นเตียงนอนได้ในรุ่น EV9 และ Carnival SXL, ระบบความปลอดภัย ADAS ระดับสูงที่ติดตั้งมาให้ครบทุกรุ่น และค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป
- ฟีเจอร์ทันสมัยในทุกรุ่น – ทุกรุ่นของ Kia มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัย เช่น ระบบความปลอดภัย ADAS, จอสัมผัสขนาดใหญ่ พร้อมรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบปรับอากาศแยกโซน และระบบ V2L ในรถไฟฟ้า ที่สำคัญ Kia มีการอัปเดตซอฟต์แวร์รถให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ ทำให้รถของคุณทันสมัยอยู่เสมอแม้จะผ่านไปหลายปี
- การรับประกันและบริการหลังการขายจาก Kia Srinakarin – เกียศรีนครินทร์ ให้การรับประกันตัวรถนาน 7 ปี หรือ 150,000 กม., รับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูงนานถึง 8 ปี, บริการบำรุงรักษาตามระยะฟรี 5-7 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการมาตรฐานที่มีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมจาก Kia โดยตรง และคลังอะไหล่แท้ที่พร้อมให้บริการทันที
นอกจากนี้ เกียศรีนครินทร์ยังมีบริการเสริมพิเศษมากมาย เช่น บริการรถใช้ระหว่างซ่อม, บริการรับ-ส่งรถถึงบ้าน และคลังอะไหล่แท้ 100% สำหรับรถทุกรุ่น ด้วยแนวคิด “ทุกความวางใจเริ่มต้นที่นี่” (Where Trust Begins) ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การใช้รถที่เหนือระดับตลอดการเป็นเจ้าของ
สรุป
รถ Kia SUV ไม่เพียงแต่นำเสนอความปลอดภัยและสมรรถนะที่เหนือระดับ แต่ยังมอบความคุ้มค่าในระยะยาวด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่โดดเด่น และบริการหลังการขายที่ครบวงจร ไม่ว่าคุณจะมองหารถไฟฟ้า Kia เพื่อก้าวสู่โลกแห่งอนาคต หรือรถยี่ห้อ Kia รุ่นไฮบริดที่ผสานจุดเด่นของทั้งสองโลก หรือแม้แต่รถดีเซลอย่าง Kia Carnival สำหรับครอบครัวใหญ่ Kia มีตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับทุกความต้องการ
ลองแวะไปสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างได้ที่โชว์รูมเกียศรีนครินทร์ เพราะนี่ไม่ใช่แค่การซื้อรถ แต่เป็นการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะเปลี่ยนการเดินทางของคุณให้ดียิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
รถ Kia SUV รุ่นไหนเหมาะกับครอบครัวใหญ่?
สำหรับครอบครัวใหญ่ที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง Kia EV9 และ Kia Carnival คือตัวเลือกที่ดีที่สุด EV9 เป็น SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและสมรรถนะเหนือชั้น ส่วน Carnival เป็น MPV หรูหราที่มอบพื้นที่กว้างขวางและความสะดวกสบายทุกการเดินทางสำหรับทุกคนในครอบครัว
Kia Sorento เหมาะกับใคร?
Kia Sorento เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวและนักเดินทางผจญภัย ด้วยทางเลือกทั้งรุ่น Hybrid และ PHEV ที่ผสานกำลังขับเคลื่อนกับประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานได้อย่างลงตัว พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลได้อย่างมั่นใจ
รถไฟฟ้า Kia วิ่งได้ไกลกี่กิโลเมตรต่อการชาร์จ?
ระยะทางการขับขี่แตกต่างกันตามรุ่น โดย Kia EV5 สามารถวิ่งได้ประมาณ 530 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) ขณะที่ Kia EV9 ให้ระยะทางการขับขี่สูงถึง 600+ กม. ต่อการชาร์จ ทำให้คุณมั่นใจได้ทั้งในการใช้งานประจำวันและการเดินทางระยะไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยครั้ง
Kia Carnival แตกต่างจาก SUV ทั่วไปอย่างไร?
Kia Carnival เป็น MPV (Multi-Purpose Vehicle) ที่ออกแบบเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่า SUV ทั่วไป เบาะนั่งปรับได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบายระดับพรีเมียม อาทิ ประตูสไลด์ไฟฟ้าและเบาะ Relaxation Seat จึงตอบโจทย์ทั้งความหรูหราและฟังก์ชันการใช้งานจริงได้อย่างลงตัว